ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้

เมื่อพูดถึงชื่อของประเทศเกาหลีใต้ ก็ทำให้หลายคนนั่งนึกภาพต่างๆ ของประเทศเกาหลีไม่ว่าจะเป็นดารา นักร้อง การแต่งตัว อาหาร เสื้อผ้า ของใช้ เครื่องประดับ ฯลฯ ซึ่งแต่ละอย่างที่กล่าวมา ต่างก็ได้รับความนิยมในเมืองไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ซีรีย์เกาหลี ที่แม้ก่อนหน้านี้บ้านเราจะฮิตทุกอย่างที่เป็นของญี่ปุ่นกัน แต่หลังจากที่กระแสเกาหลีฟีเวอร์จากหนังหรือซีรีย์ แล้วทำให้ติ่งคนไทยบ้านเรา หันมาจับตามองและขอเกาะกระแสตามเทรนด์ของหนุ่มสาวแดนกิมจิบ้าง

ซึ่งแต่ละอย่างที่เป็นเทรนด์ ก็จะฮอตฮิตแตกต่างกันไป อย่างดารานักร้อง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัยรุ่นที่ขอเป็นติ่ง ทั้งร้องทั้งเต้นเลียนแบบไอดอล ประกอบกับนักร้องบ้านเราได้เป็นหนึ่งในวงเกาหลี ทำให้เทรนด์ฮิตนักร้องไม่มีวันตกแน่นอน รวมถึงสไตล์การแต่งตัว และแอ็กเซ็สเซอรี่ต่างๆ เครื่องสำอางและเทรนด์การศัลยกรรม ที่มาน่าเชื่อว่าจะทำให้สาวๆ บ้านเราอยากจะทำหน้าเหมือนสาวกาหลี ถึงขนาดลงทุนบินไปอัพหน้ากันมาโดยเฉพาะดาราบ้านเรา จึงทำให้กระแสเกาหลีฟีเวอร์ในทุกๆ เรื่อง ยังคงเป็นที่พูดถึงในทุกเพศทุกวัยนั่นเอง

ลักษณะภูมิประเทศ

คาบสมุทรเกาหลีทอดตัวไปทางทิศใต้ทางด้านตะวันออกของทวีปเอเชีย โดยมีความยาวประมาณ 612 ไมล์ หรือ1,020 กิโลเมตร และกว้าง 175 กิโลเมตร หรือ 105 ไมล์ ณ จุดที่แคบที่สุดของคาบสมุทรเป็นเทือกเขา ซึ่งเกาหลีจัดว่าเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของแผ่นดิน ซึ่งเป็นหินแกรนิตและหินปูนทำให้เกิดภูมิประเทศที่สวยงามอย่างมหัศจรรย์ โดยประกอบด้วยเทือกเขาและหุบเขา ตลอดจนชายฝั่งด้านตะวันออกที่มีความสูงชันและทอดตัวลงสู่ทะเลตะวันออก ส่วนชายฝั่งทางด้านใต้ และตะวันตก เทือกเขาค่อยๆ ลาดลงต่ำสู่ที่ราบชายฝั่ง ถือเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี โดยเฉพาะในด้านการผลิตข้าว ซึ่งเกาหลีถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ที่มีการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตย และ เกาหลีเหนือที่มีการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ และถูกคั่นกลางโดยเขตปลอดทหาร

การแบ่งเขตการปกครอง

ประเทศเกาหลีใต้แบ่งเขตการปกครองออกเป็น จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ เกาหลี มหานคร , เกาหลี นครพิเศษ และ นครปกครองตนเอง สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย และประมุขของประเทศคือประธานาธิบดี ซึ่งได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน เพื่อให้เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และมีนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และเกาหลีใต้มีการแบ่งเขตการปกครองเป็น 9 จังหวัด และ 7 เขตการปกครอง และมีกรุงโซลเป็นเมืองหลวงของประเทศ ซึ่งทั้งหมด 77 เมือง และ 88 มณฑล

ประชากรและวัฒนธรรม

ประชากร ส่วนใหญ่มีเชื้อสายมาจากเกาหลี จีน ฟิลิปปินส์ และเชื้อสายอื่นๆ ส่วนวัฒนธรรมการแต่งกายของชาวเกาหลี แม้ในปัจจุบัน ชาวเกาหลีจะยังคงเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นวัยรุ่น แต่การชุดแต่งกายตามประเพณีของชาวเกาหลีคือฮันบก หรือชุดที่ใช้แต่งกายในฤดูหนาวนั้น ส่วนใหญ่ใช้ผ้าที่ทอจากฝ้ายและกางเกงยาวที่มีสายรัดที่ข้อเท้าซึ่งช่วยในการเก็บความร้อนของร่างกาย ส่วนในช่วงฤดูร้อนจะใช้ผ้าป่านลงแป้งแข็งหรือผ้ารามี ซึ่งจะช่วยในการซึมซับและการแผ่ซ่านของความร้อนในร่างกายให้มากที่สุด

สภาพภูมิอากาศของเกาหลี

ชาวเกาหลี เรียกผืนแผ่นดินแห่งนี้ว่า คึมซูกังซาน หรือ ผืนพรมทองแห่งแม่น้ำและภูเขา ความน่าพิศวงของผืนแผ่นดินนี้ถ่ายทอดผ่านแต่ละช่วงฤดูกาลด้วย ทัศนียภาพที่สวยงามแตกต่างกันไป ภูมิอากาศของเกาหลีซึ่งอยู่ในเขตอบอุ่นมีอยู่ 4 ฤดูกาลใน 1 ปีแบ่งออกเป็นฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง มีความแตกต่างกันมาก โดยช่วงฤดูหนาวจะกินเวลายาวนานกว่าฤดูร้อน และฤดูใบไม้ผลิ ส่วนฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่สั้นที่สุด และช่วงเวลาฝนตกจะเป็นระหว่างฤดูร้อนในช่วงเดือนมิถุนายน

ฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูใบไม้ผลิ ของเกาหลีจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 6 องศาฯ ถึง 16 องศาฯ ช่วงนี้ดอกไม้เยอะ ต้นไม้จะทำการผลิใบสะพรั่งเต็มต้น แสงแดดสดใสยาวนานตลอดวัน

ฤดูร้อน
ฤดูร้อน ของเกาหลีจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม โดยอุณหภูมิเฉลี่ย 22 องศาฯ ถึง 38 องศาฯ ถือเป็นช่วงที่ร้อนจัด แต่อากาศร้อน ก็จะทำให้มีฝนตกบ้าง หากไปเที่ยวเกาหลีช่วงนี้มองไปทางไหนก็จะเห็นสีเขียวทั้งต้นไม้ใบหญ้า ผลิใบเต็มที่ ปลายเดือนมิถุนายน จนถึงปลายเดือนกรกฎาคม และตลอดเดือนสิงหาคมอากาศจะร้อนจัดที่สุด

ฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูใบไม้ร่วงหรือใบไม้เปลี่ยนสี จะอยู่ช่วงเดือนกันยายน ถึง เดือนพฤศจิกายน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะลดลง อยู่ที่ 5 องศา ถึง 25 องศาฯ แต่จะมีอากาศสดชื่น ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศดี เป็นช่วงที่ได้รับความนิยมมากๆ จากนักท่องเที่ยว ถือว่าบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ ในช่วงเดือนตุลาคม ที่เกาหลีจะมีสีสันสดใสด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีทองและสีแดงเต็มต้น เป็นช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวมากที่สุด

ฤดูหนาว
ฤดูหนาว จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย -5 องศาฯ ถึง 20 องศาฯ อากาศจะแห้งและหนาวจัด บางครั้งมีฝนตกหรือหิมะตกหนัก นักท่องเที่ยวหลายคนไม่พลาด ที่จะไปเล่นหิมะ โดยอาจหาที่พักสำหรับเล่นสกีด้วย ถ้าจะไปช่วงนี้จะต้องเตรียม เสื้อผ้ากันหนาวไปด้วย

โซนเวลาของเกาหลี

โซนเวลาของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ จะเร็วกว่าเวลามาตรฐานสากล 9 ชั่วโมง แลจะเร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง

ค่าเงินที่ใช้ใน เกาหลี

ค่าเงินของเกาหลีที่ใช้คือ สกุลเงิน วอน มีเหรียญกษาปณ์แบ่งออกเป็น 10, 50, 100 และ 500 วอน ธนบัตรมี 1000, 5000 และ 10,000 วอน อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 1,200 วอนต่อ 1 เหรียญสหรัฐ

ระบบไฟฟ้าใน เกาหลี

ระบบไฟฟ้าในประเทศเกาหลีใช้ไฟ 110 และ 220 โวลท์ ใช้ปลั๊กสองขาแบบแบน = 110 โวลท์ และปลั๊กสองขาแบบกลม = 220 โวลท์  เป็นปลั๊กกลม 2 หรือ 3 ขา (และมีสายดิน) ท่านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กล้องวีดิโอ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเป่าผม ควรมีปลั๊กแบบใช้ได้ทั่วโลกติดตัวไปด้วย เพื่อความสะดวก รวมถึงการเตรียมฟิล์มถ่ายรูป เมมโมรี่การ หรือแบตเตอร์รี่ ไปให้เพียงพอจากประเทศไทย เพราะที่เกาหลีอาจมีราคาแพง

การใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตสำหรับนักท่องเที่ยว

โทรศัพท์ที่ประเทศเกาหลีใช้ระบบ CDMA หากต้องการใช้โทรศัพท์ วิธีที่ประหยัดกว่าโรมมิ่ง คือการเช่าโทรศัพท์ที่สนามบิน จะมีบูธอยู่ มีอยู่ 3 ร้านคือ SK telecom , Olleh KT, และ S Roaming ส่วนอีกหนึ่งวิธีคือ การซื้อซิมการ์ดเกาหลีใช้ เพราะในปัจจุบันที่ประเทศเกาหลีมีซิมการ์ดระบบ GSM สำหรับนักท่องเที่ยว และสามารถใช้ร่วมกับมือถือของประเทศไทยได้ ซึ่งบริการนี้ก็มีของ SK telecom สามารถซื้อได้ที่บูธในสนามบินอินชอน หรือตามช้อปที่มีสัญลักษณ์ T- world โดยแจ้งพนักงานว่าต้องการซื้อซิมการ์ด จีเอสเอ็ม สำหรับสมาร์ทโฟน โดยใช้พาสปอตกับเงิน หนึ่งหมื่นวอน สำหรับค่าซิมการ์ด และอีก หนึ่งหมื่นวอน สำหรับเติมเงินค่าโทรศัพท์

เมื่อได้ซิมการ์ดมาแล้ว ก็นำมาใส่มือถือของคุณได้ทันที เมื่อลงทะเบียนตามคู่มือที่แนบมาแล้ว สามารถใช้โทรกลับไทยได้ และยังใช้ Free WiFi ของ SK telecom ได้อีกด้วย แต่จะใช้เฉพาะบริเวณที่มีจุด hot spot และรวมไปถึงในสถานีรถไฟใต้ดิน และอีกหนึ่งเจ้าที่มีบริการ ซิมการ์ด GSM คือ Olleh KT สามารถซื้อซิมการ์ดระบบ GSM ได้ที่บูธในสนามบินหรือะช็อปของ Olleh KT ได้เช่นกัน

อินเทอร์เน็ต ในประเทศเกาหลี โดยเฉพาะในโซลนั้น ปัจจุบันมีสัญญาณ Free WiFi ให้บริการอยู่เยอะมาก ตามถนนหนทาง โดยเฉพาะที่มยองดง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม หรือฮงแด แหล่งวัยรุ่น หากอยากเล่นแบบเสถียรสามารถหาได้ตามร้านกาแฟใหญ่ๆ มีสัญญาณฟรีทุกร้าน แถมยังสามารถ VDO Call ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ กับคนที่บ้านได้สบาย ส่วนตามที่พักไม่ว่าจะเกสเฮ้าส์ โฮสเทล หรือโรงแรม จะมี Free WiFi ไว้บริการทุกที่อยู่แล้ว แบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม และสัญญาณแรงไปจนถึงในห้องนอนเลยทีเดียว