
ช่วงฤดูร้อนของเกาหลีนั้นเริ่มตั้งแต่ประมาณ เดือนมิถุนายนถึงช่วงต้นเดือนกันยายน อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 22-38 องศาเซลเซียส ถึงจะเป็นอากาศที่ไม่แตกต่างจากเมืองไทยมากนัก แต่ขอบอกเลยว่าช่วงหน้าร้อนที่เกาหลีมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่สนุกมากมาย
1. ราคาทัวร์ถูก
สำหรับใครที่อยากเที่ยวแบบเซฟงบเป็นที่สุด เพราะช่วงนี้ราคาทัวร์เกาหลีจะถูกเป็นพิเศษ แถมยังมีให้เลือกหลายโปรแกรม หลายช่วงเวลาการเดินทาง รวมถึงราคาตั๋วเครื่องบินหรือค่าที่พักที่โดยรวมถือว่าถูกที่สุดในบรรดาฤดูทั้งหมด เพียงแต่การเดินทางเข้าเกาหลีในช่วงนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกหน่อย สำหรับการลงทะเบียน K-ETA เพื่อเข้าประเทศ ประมาณ 300 บาท และค่าใช้จ่ายในการตรวจโควิดที่เกาหลี ประมาณ 2,000 กว่าบาทนั่นเอง

2. จัดกระเป๋าเดินทางง่าย
ด้วยสภาพอากาศที่อุณหภูมิประมาณ 22-38 องศาเซลเซียส นั่นหมายความว่าอากาศที่เกาหลีในช่วงฤดูร้อนไม่แตกต่างจากเมืองไทยมากนัก ทำให้เราจัดกระเป๋าเที่ยวเกาหลีได้สบาย ไม่ต้องแบกเสื้อกันหนาวหรือเสื้อโค้ทตัวใหญ่ไปให้หนัก อีกทั้งยังไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องกันหนาวให้เปลือง แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักกระเป๋าว่าจะเกินไหมอีกด้วย แต่งตัวเหมือนอยู่ไทยได้เลย จัดแค่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ ก็เอาอยู่! เหลือพื้นที่ในกระเป๋าไว้ใส่ของช้อปปิ้งกลับมาอีกเพียบ

3. มีดอกไม้สวยๆ ให้ชม
ที่เกาหลีจะมีในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น เพราะในช่วงฤดูร้อนก็มีดอกไม้ให้ชมเช่นกัน โดยในช่วงหน้าร้อนจะรายล้อมไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า และดอกไม้ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ ดอกมูกุงฮวา ที่หลายคนคงคุ้นชื่อจากเพลงของเกมในซีรีส์เกาหลีเรื่อง Squid Game ที่ร้องว่า “มูกุงฮวา โกชี พีออดซึมนีดา…” ใครอยากเห็นดอกมูกุงฮวาของจริงก็มาชมกันได้ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม ลักษณะของดอกจะคล้ายกับดอกชบา กลีบดอกสีม่วงอมชมพู โดยจะบานในช่วงที่มีแสงแดดเท่านั้น จากนั้นดอกก็จะหุบลง เป็นดอกไม้ที่ทนต่อสภาพอากาศร้อน อีกทั้งยังถือเป็นดอกไม้ประจำชาติเกาหลีอีกด้วย

5.อร่อยกับของหวานหน้าร้อน
เที่ยวเกาหลี หน้าร้อน ที่สำคัญคือเรื่องกิน! มาถึงถิ่นกำเนิดทั้งที ห้ามพลาดชิม บิงซู น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะโปะด้วยผลไม้ ตักเข้าปากก็อร่อยเย็นชื่นใจ หรือจะจัดของหวานอย่างไอศกรีมก็เพลินแบบไม่ต้องกลัวหนาว กินของเย็นในช่วงอากาศร้อนๆ นี่เรียกว่า ฟินสุดๆ
