1. อาหารเกาหลี Bibimbap (บิบิมบับ) บิบิมบับ มาจากคำว่า บิบิม หมายถึง การคลุกเคล้า การยำ ส่วนคำว่า บับ หมายถึงข้าว  บิบิมบับ เลยถูกคนไทยเรียกว่า ข้าวยำเกาหลี ซึ่งในสมัยก่อน บิบิมบับ เป็นตัวแทนอาหารเกาหลีตามธรรมเนียมเก่าแก่ดั้งเดิม ในวันหยุดที่สำคัญ เช่น เทศกาลชูซอก ในปัจจุบันเป็นอาหารที่รู้จักกันแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งจัดได้ว่าเป็นอาหารที่มีความสมดุลและมีสารอาหารครบถ้วน เพราะมันมีผักต่างๆ พร้อมกับเนื้อสัตว์หมัก มีพริกเกาหลีปรุงพิเศษเพิ่มเข้าไปเพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้ส่วนผสมต่างๆ เข้ากันอย่างลงตัว 2. Bulgoki (บุลโกกิ) บุลโกกิ อาหารเกาหลีที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่ง เป็นเนื้อสัตว์ซอสบาร์บีคิวเกาหลี ปรุงสุกใช้เทคนิคการย่างแบบดั้งเดิม นำมาขลุกขลิกกับซุปบุลโกกิกะทะร้อน พร้อมผักและเครื่องเคียงต่างๆ เวลากินให้กินกับผัก กระเทียม และพริก ห่อเป็นคำแล้วจิ้มน้ำจิ้ม  3. Pork Calbi (พอร์กคาลบิ) พอร์กคาลบิ หรือ หมูย่างเกาหลี เป็นเนื้อหมูหมักเครื่องปรุงคล้ายๆ กับ บุลโกกิ แต่เนื้อจะหั่นแผ่นโตและหนากว่า เวลาจะรับประทานต้องนำมาย่างบนตะแกรงเตาถ่านจนสุก และใช่กรรไกรตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ พอคำ รับประทานกับข้าวสวย กิมจิ และผักสด ห่อผักแล้วจิ้มน้ำจิ้ม 4. Samgyetang […]

ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ โชว์ความมั่นคงของชาติโดยหน่วยงานความมั่นคงระดับประเทศทั้งสามเหล่า ตั้งมาดูที่เทศกาลนี้กันเลยนะคะ Gyeryong World Military Culture Expo ที่เป็นการเฉลิมฉลองการเติบโตของกองทัพ อีกทั้งโชว์กองกำลัง, อาวุธเครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ แต่ไม่ได้จัดแสดงเพื่อสร้างความตื่นกลัวแก่ผู้คนหรือประเทศรอบข้างแต่อย่างไร แต่จัดแสดงเพื่อให้ประชาชนนั้นมีส่วนร่วมและรับรู้ถึงงบประมาณที่ใช้จ่ายต่าง ๆ ว่ามีความโปร่งใสและคุ้มค่ามากแค่ไหน อีกทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ และเยาวชนที่ชื่นชอบอาชีพทหาร สุดท้ายคือผู้คนสามารถมาถ่ายรูปใช้เวลาร่วมกับครอบครัวได้ภายในงานแห่งนี้อีกด้วย

ไปตอนกลางวันก็สวย อยู่รอถ่ายรูปแสงไฟตอนกลางคืนบรรยากาศก็โรแมนติกสุด ๆ  งานไฟประดับที่เมืองโพชอน ประเทศเกาหลีใต้ หรือที่ชาวบ้านแถวนั้นนิยมเรียกว่า “เทศกาลประดับไฟเฮิร์บไอส์แลนด์” แต่ว่าช่วงพีกสุด ๆ ที่ผู้คนนิยมมาเยี่ยมชมสวนดอกไม้แห่งนี้จะเป็นช่วงฤดูหนาวมากกว่า แต่หากถามว่าจะเที่ยวในช่วงเวลาอื่น ๆ ได้หรือไม่ พวกเราขอตอบว่าดอกไม้จะมีช่วงเวลาการเบ่งบานที่ต่างกันไป หากอยู่ในช่วงอุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสม ดอกไม้แต่ละสายพันธุ์ก็จะสวยโดดเด่นไม่แพ้กันเลยนะคะ แต่ในส่วนของไฟประดับถือว่า เป็นความสวยงามที่ผู้คนสามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีเลย เพราะจะมีการจัดตลอดทั้งพื้นที่ของสวนแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นตามทางเดิน, ซุ้มประตูและอาคารของตึกต่าง ๆ รับรองว่ามาแล้วต้องประทับใจ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ตลอดทางแน่นอน

ในภาษาเกาหลี “ทัลชุม (탈춤)” มาจากการรวมกันของคำว่า ‘ทัล (탈)’ ซึ่งหมายถึงการสวมหน้ากาก และ ‘ชุม (춤)’ ซึ่งหมายถึงการเต้นรำ ดังนั้น ‘ทัลชุม’ จึงเป็นศิลปะการใส่หน้ากากในขณะที่เต้นรำรูปแบบหนึ่ง หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “การระบำหน้ากาก” ศิลปะการระบำหน้ากากมีขึ้นตั้งแต่ในสมัยสามอาณาจักร จากนั้นก็เริ่มแพร่หลายและพัฒนาไปจนถึงจุดสูงสุดในสมัยโชซอนค่ะ ในปัจจุบันถือเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้านที่มีมาช้านานและมีการแสดงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเกาหลีเลยทีเดียว การระบำหน้ากากทัลชุมเป็นศิลปะพื้นบ้านที่ให้ความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง มักจะแสดงในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น วันขึ้นปีใหม่, เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง, เทศกาลเรือมังกร, วันประสูติของพระพุทธเจ้า ฯลฯ แต่เบื้องหลังเสียงหัวเราะเหล่านั้นกลับแฝงไปด้วยความคิดและแรงบันดาลใจมากมายที่คนเกาหลีในสมัยโบราณต้องการถ่ายทอดออกมา ในช่วงสามอาณาจักร การระบำหน้ากากเป็นพิธีกรรมง่าย ๆ ที่ใช้ในการสื่อสารกับพระเจ้าค่ะ โดยเชื่อกันว่าหน้ากากจะสะท้อนภาพของเทพเจ้า ในขณะที่ผู้สวมหน้ากากจะช่วยถ่ายทอดความคิดของผู้คนไปยังเทพเจ้าได้ และในทางกลับกัน การระบำหน้ากากก็เป็นรูปแบบการสื่อสารที่สนุกสนานระหว่างทวยเทพและมนุษย์ด้วยเช่นกันค่ะ ต่อมาในสมัยโชซอน การระบำหน้ากากทัลชุมก็ไม่ใช่พิธีกรรมเพื่อการสื่อสารกับพระเจ้าอีกต่อไปค่ะ โดยเปลี่ยนเป็นการสะท้อนความโกรธและความรู้สึกไม่ยุติธรรมของคนธรรมดาที่มีต่อขุนนางและชาวจีนในยุคศักดินาแทน เวลาทำการแสดงระบำหน้ากากทัลชุม นักแสดงจะยืนตรงกลางและมีผู้คนมารวมตัวกันเพื่อชมและส่งเสียงเชียร์ค่ะ โดยนักแสดงจะซ่อนตัวตนเอาไว้หลังหน้ากาก จากนั้นก็สามารถแสดงเป็นตัวละครอะไรก็ได้ ซึ่งก็จะมีการพูดถึงเรื่องต่าง ๆ รวมถึงความคับข้องใจที่คนธรรมดาไม่กล้าพูดในเวลาปกตินั่นเองค่ะ ประเด็นต่าง ๆ ที่กล่าวถึงก็มีหลากหลายเลยนะคะ เช่น การประณามความอ่อนแอของกษัตริย์, การวิพากษ์วิจารณ์ความชั่วร้ายในสังคม, […]

เทศกาลนี้จัดขึ้นที่ เมืองชินโด จังหวัดชลลานัม-โด ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในช่วงที่น้ำลด และเกิดเป็นทางกว้าง 40 เมตรยาว 2.8 กิโลเมตร ระหว่างเมืองจินโดถึงเกาะโมโด ปรากฏการณ์นี้ผู้คนพากันเรียกว่า มหัศจรรย์แห่งโมเสส มีการล่องทะเลด้วยแพท่อนซุง การสักการะของชาวประมงต่อเทพแห่งทะเล และการชุมนุมของกุ้งหอยบนถนนทะเล การเฉลิมฉลองด้วยพิธีสักการะบูชาต่อยายป้องและการร้องเพลงเวลาทำงานของชาวเกาะชินโด และวัฒนธรรมต่างๆสำหรับชาวทะเล

อีกหนึ่งป่าลับแต่เป็นที่รู้จักกันดีของคนเกาหลี จากการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ป่าที่ถูกเผาไหม้ไปของรัฐบาล ด้วยการปลูกต้นไม้จำนวนกว่า 690,000 ต้น! ทำให้ป่าแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง!! เพราะสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ถ้าไปเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงป่าทั้งป่าก็เป็นสีส้ม หรือถ้าใครชอบป่าสีเขียวชอุ่มก็ต้องไปช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ช่วงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุดคงต้องยกให้ฤดูหนาว โดยเฉพาะตอนหลังหิมะตกพื้นที่ทั่วทั้งป่าจะกลายเป็นสีขาวโพลนกลมกลืนไปกับสีของต้นเบิร์ชหรือต้นชาจัก (자작) ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและช่วยฮีลลิ่งได้ดีสุดๆ~ เป็นความสวยงามของธรรมชาติดึงดูดสายตาราวกับโดนต้องมนต์🌬 แอดขอกระซิบสำหรับใครที่มีแฟนหรือคนรู้ใจต้องลองไปเที่ยวที่นี่ด้วยกันสักครั้งนะ เพราะบรรยากาศดีมากๆ เหมาะกับการไปเดทกันสุดๆ

1. 치맥 – ไก่ทอด เริ่มต้นกันที่เมนูยอดฮิตของทั้งคนไทยและเกาหลีกับ Chi-Mag ที่ย่อมาจากคำว่า Chicken + Magju (เบียร์) เมนูไก่ทอดชนิดต่าง ๆ เสิร์ฟคู่กับเบียร์แก้วโปรด ซึ่งในแต่ละร้านจะมีเมนูไก่ทอดรสเด็ดที่มีสูตรเฉพาะแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่าง เช่น ร้านสุดชิลล์ขวัญใจสายเกาอย่าง Kiki Korean Bar ที่นำเสนอคอมโบเซ็ตสำหรับชาวแก๊งอย่าง  เซ็ตไก่ทอดเกาหลี 3 สไตล์ ที่ประกอบไปด้วยไก่ทอดรสออริจินัล ไก่ทอดรสซาวครีมและหัวหอม ไก่ทอดรสเผ็ด ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมนูนี้มักจะปรากฏตามซีรีส์มากมายไม่ว่าจะเป็น The King, You Who Came From The Stars และอื่น ๆ โดยจะประกอบอยู่ในฉากแฮงเอาต์ของทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน สื่อถึงอีกหนึ่งวัฒนธรรมการกินที่น่าสนใจของชาวเกาหลี  2. 라메흐꺄도 – ปูดองเกาหลี จานถัดมาเป็นเมนู ‘ปูดอง’ อาหารทะเลยอดฮิตที่นิยมทานแบบดองซีอิ๊วเกาหลี ที่ร้านดังอย่าง nice two Meat u นำเสนอเมนู ปูทะเล (1,050 บาท) ซึ่งทางร้านเลือกใช้เฉพาะปูไข่ดองราดซอสสูตรเฉพาะจากเกาหลี  เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเพิ่มความจัดจ้านแบบไทย ๆ ยิ่งจิ้มเยอะยิ่งแซ่บ ได้ความเผ็ดร้อนใครลองก็ติดใจ เป็นหนึ่งเมนูในความทรงจำจากฉากเด่นของซีรีส์เรื่อง What’s Wrong with Secretary Kim 3. 삼겹살 – หมูสามชั้น […]

ตลาดควังจัง หรือ Gwangjang Market เป็นอีกหนึ่งตลาดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปีที่สำคัญในกรุงโซล ที่นี่เป็นตลาดถาวรแห่งแรกในเกาหลีและยังคงเฟื่องฟูในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ชื่อ ‘ควังจา’ หมายถึง ‘รวบรวมจากระยะไกลและเก็บไว้’  ตลาดควังจัง เริ่มต้นจากการเป็นศูนย์กลางการค้าขนาดเล็กที่รวบรวมสินค้าจากพื้นที่ใกล้เคียง พัฒนามาเรื่อยจนกลายเป็นตลาดค้าส่งจัดจำหน่ายสินค้าหลายประเภท ทั้งของชำ ของแห้ง ของสด รวมถึงสินค้าพื้นเมืองอื่นๆ  นอกจากเป็นสถานที่ซื้อขายของกินของใช้ของคนในละแวกแล้ว ยังเป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งคนเกาหลีต่างถิ่นและชาวต่างชาติด้วย ที่นี่มีอาหารสตรีทฟู้ดให้เลือกกินเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นคิมบับ แพนเค้กผักเกาหลี ต๊อกโบกี เกี๊ยวน้ำ ไส้กรอกเลือด หรือแนงมยอน ฯลฯ ที่นี่เด่นเรื่องอาหารสตรีทฟู้ด และมีร้านค้ามากมายให้คุณเลือกจนตาลาย ถ้าอยากกินได้เยอะๆ หลายเมนู เราแนะนำให้คุณพกเพื่อนไปด้วย ก่อนเลือกร้านลองเดินวนดูสักรอบสองรอบก่อนก็ได้ เนื่องจากร้านค้ามากมายจริงๆ  อย่างที่เรามาวันนี้ตั้งใจมากินร้าน Gohyang Kalguksu หรือแผงขายบะหมี่ทำมือของ คุณป้าโจยุนซูน (Cho Yonsoon) ที่เคยออกฉายในสารคดีของ Netflix เรื่อง ‘Street Food’ ตอนที่ 6 ซึ่งคิวยาวมาก และนักท่องเที่ยวก็เยอะมากเช่นกัน ที่ร้านมีขายหลายอย่าง ทั้งบะหมี่ทำมือสูตรเฉพาะของเธอ เกี๊ยวน้ำ […]

Seolleongtang ซอลลองทัง (ซุปกระดูกวัว) มีมายาวนานตั้งแต่สมัยโชซอน คนเกาหลีนิยมกินเป็นอาหารเช้า ลักษณะคล้ายๆ ซุปเนื้อ กินกับข้าวและเครื่องเคียง เนื้อวัวแผ่นบางๆ นุ่มๆ ไม่เหนียวเคี้ยวง่าย ไม่หนักท้องจนเกินไปเนื่องจากนิยมกินเป็นอาหารเช้า ได้ลิ้มรสซุปร้อนๆ พร้อมข้าวและเส้นก๋วยเตี๋ยวแล้วเหมาะสำหรับช่วงอากาศหนาวๆ ที่เกาหลีมากๆ เลย Oden ออมุก (โอเด้ง) ลักษณะเป็นเหมือนลูกชิ้นปลาแผ่นเสียบไม้ ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับลูกชิ้นปลา แต่ทำเป็นแผ่นบาง ๆ พับไปพับมาเสียบไม้ แล้วลวกให้สุกในหม้อน้ำซุป หาทานได้ง่ายๆ ตามร้านรถเข็น โดยคนเกาหลีจะทานออมุกเป็นอาหารทานเล่น หรือระหว่างมื้อ อร่อย และราคาถูกมากๆ เวลาทานสามารถขอรับน้ำซุปร้อนๆ มาดื่มด้วย ทำไมถึงนิยมกินตอนหน้าหนาวก็เพราะว่าจะฟินสุดๆ ก็เมื่อยืนกินที่ร้าน มีลมหนาวๆ พัดผ่านนี่เลย Bung geo pang บุงออปัง (붕어빵) ขนมปังหน้าตารูปปลาทองหน้าตาแปลกๆ สอดไส้ถั่วแดงแสนอร่อย เข้ากับเนื้อขนมปังนี้เป็นที่นิยมของคนเกาหลีเชียวนะ สามารถหากินได้ทั่วไปแต่ถ้าได้ทานในฤดูหนาวแล้วจะอุ่นขึ้นแน่นอนด้วยไส้ถั่วแดงร้อนๆ หอมๆ ราคาถูก แถมบางร้านมีแบบไส้ครีมคัสตาร์ด และอีกมากมาย ที่สำคัญขนมพุงออปังต้องเป็นรูปปลาเท่านั้น เพราะคนเกาหลีมีความเชื่อว่าปลาเป็นสัตว์มงคล จะนำมาซึ่งความร่ำรวยและความร่มเย็น แต่เดี๋ยวนี้เค้าฮิตทำเป็นรูปต่างๆ ขึ้นมามากขึ้น เช่น อุนจิ อีกด้วยนะ! […]